จากที่เลี้ยงดูแลศึกษามานั้น มีความเป็นไปได้ทั้ง2อย่างคือ หน่อที่แทงออกมาอาจจะด่างหรือไม่ด่าง
อยากจะบอกว่าเดาไม่ออกเลยทีเดียว หรือ หาอะไรมาคำนวนความเป็นไปได้นั้นไม่ได้เลย แต่หลังจากที่ต้นแม่ออกเครือแล้วคือต้องล้มต้นแม่แน่นอน และหน่อที่แทงออกมา อาจจาเขียวปี๋ทั้งกอ ด่างทั้งกอ หรือมีด่างบ้างนั้น ต้องเข้าใจเรื่องสายพันธุ์ ยกตัวอย่างสายพันธ์ุที่ด่างแน่นนอนทุกหนอที่แทงคือกล้วยด่างฟอลิด้าที่ลายทการพาดตลอด หรือ กล้วยแดงอินโดมีลักษณะสีแดงเป็นเอกลักษ์เพราะเป็นสายพันธ์ของเค้าการลุ้นให้ออกมาเขียวเป็นไปได้ยากจึงมีราคาถูกกว่าเพราะเอาจริงแล้วหาได้ทั่วไปแต่อาจจะปลูกยากในบ้านเราราคาจึงแพงเป็นไม้สวยงามไป แต่กับกล้วยสายพันปกติที่มีความผิดปกติที่เกิดการด่างขึ้นมานั้นยกตัวอย่างกล้วยด่างมะลิอ่องถือเป็นความผิดปกติที่เกิดได้ยากราคาจึงแพงกว่าเพราะหาได้ยากในธรรมชาติและ ที่จริงแล้วเป็นลักษณะด้อยด้วยซ้ำเพราะคลอโรฟิลล์ที่ใช้สังเคราะห์แสงนั้นน้อยลงทำให้เติบโตช้า แต่การแทงหนอขึ้นมาถ้าตาหน่อเกิดที่ตรงด่างหน่อก็จะด่าง ถ้าเกิดที่ตรงสีเขียวหน่อก็จะเขียว หรือการถ่ายทอดของยีนส์ ที่หน่อรุ่นลูกอาจจะไม่มีด่างเลยแต่ลักษณะด่างปเกิดกับหน่อรุ่นหลานก็มีให้เห็นอยู่มาก แต่ที่รับรองได้คือถ้าต้นกล้วยมีเชี้อด่างให้เห็นแล้วในหน่ทุกหน่อมีจะมีเชื้อด่างอยู่แต่ถ้าเขียวทั้งต้นก็เพราะยังไม่แสดงความผิดปกติหรือความด่างออกมาแต่อาจจะแสดงความด่างออกมาในหน่อรุ่นลูก หลาน หรือเหลนก็ได้ ถ้าใครอยากลุ้นก็สามารถหาหน่อเขียวที่แม่ด่างมาลุ้นได้แต่ต้องแน่ใจว่าต้นแม่ ต้นยาย เป็นหน่อกล้วยที่มาจาก ต้นด่างจริงๆนะครับ แต่ในความรู้สึกผมลักษณะของต้นกล้วยและประโยนช์ที่ได้รับนั้นสายพันไหนก็สวยงามไปหมดเว้นแต่กล้วยด่างป่านั้นมีผลที่กินไม่ได้เพราะเมล็ดเยอะ และถ้าปลูกใกล้กล้วยปกติก็ทำให้กล้วยปกติมีเมล็ดไปด้วยถ้าคนปลูกกล้วยเป็นอาชีพไม่ควรปลูกกล้วยที่ให้ผลมีเมล็ดนะครับผลผลิตอาจเสียหายได้เพราะแมลงไม่เลือกที่จะผสมเกสรต้นไหนแมลงก็ไปหมดนะครับ ต้องขอขอคุณผู้ที่ติดตามบล็อกนี้ด้วยนะครับ บทความนี้เป็นบทความแรกของปี สวัสดีปีใหม่ปี2021ครับของให้มีความสุขตลอดปีนี ปีหน้าและทุกๆปีนะครับ